มูลนิธิไทยรักษ์ป่า พลังที่การรักษาธรรมชาติที่ยืนยงเพื่ออนาคตของเมืองไทย

[kaidee20]

ในสมัยที่โลกพบเจอปัญหาสภาพแวดล้อมอย่างรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนลักษณะภูมิอากาศ ภาวการณ์โลกร้อน หรือการลดน้อยลงของทรัพยากรธรรมชาติอย่างต่อเนื่อง การอนุรักษ์ป่าไม้ก็เลยกลายเป็นหัวใจหลักที่จำต้องได้รับความร่วมแรงร่วมใจจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทยซึ่งเคยมีพื้นที่ป่าที่อุดมสมบูรณ์แม้กระนั้นจำต้องพบเจอกับการบุกรุกและก็การทำลายธรรมชาติจนพื้นที่ป่าน้อยลงอย่างน่ากังวล มูลนิธิไทยรักษ์ป่าจึงก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็นกลไกสำคัญสำหรับเพื่อการคุ้มครอง ฟื้นฟู และก็ผลักดันการใช้ทรัพยากรป่าดงอย่างยั่งยืน พร้อมกับสร้างความสำนึกให้คนไทยตระหนักถึงค่าของป่าไม้ในฐานะทรัพยากรล้ำค่าที่ไม่สามารถทดแทนได้



เข้าไปอ่านรายละเอียดได้จาก >> มูลนิธิไทยรักษ์ป่า http://thairakpa.org/

มูลนิธิไทยรักษ์ป่าเป็นหน่วยงานไม่แสวงหากำไรที่มุ่งเน้นการทำงานเชิงรุกสำหรับในการสงวนป่าไทยในทุกภูมิภาค ไม่ว่าจะเป็นป่าดิบชื้น ป่าเบญจพรรณ หรือป่าสนเขา โดยมีแนวทางการทำงานที่ครอบคลุมทั้งด้านการปลูกป่า การบูรณะพื้นที่ทรุดโทรม การรักษาสัตว์ป่า ตลอดจนการทำงานร่วมกับชุมชนแคว้นเพื่อสนับสนุนการใช้คุณประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติอย่างสมดุลและไม่ทำลายระบบนิเวศ ป่าไม้มิได้เป็นแค่เพียงแหล่งต้นน้ำหรือที่อยู่ที่อาศัยของสัตว์ป่าแค่นั้น แม้กระนั้นยังเป็นแหล่งผลิตอากาศบริสุทธิ์ เป็นแถวกันชนตามธรรมชาติที่ช่วยคุ้มภัยธรรมชาติอย่างดินถล่ม น้ำป่าไหลหลาก รวมทั้งยังเป็นแหล่งของกิน ยารักษาโรค และวัฒนธรรมท้องถิ่นที่สืบทอดกันมายาวนานหลายชั่วลูกชั่วหลาน

หนึ่งในพันธกิจหลักของมูลนิธิไทยรักษ์ป่าคือการสร้างความประจักษ์แจ้งรู้ให้กับพสกนิกรทุกกลุ่ม โดยยิ่งไปกว่านั้นเยาวชนที่นับว่าเป็นกำลังสำคัญของประเทศในอนาคต ผ่านแผนการรณรงค์ ปลูกฝังจิตสำนึกสีเขียว ยกตัวอย่างเช่น กิจกรรมปลูกป่าในสถานที่เรียน การค่ายอนุรักษ์ธรรมชาติ การอบรมเชิงปฏิบัติการ และก็กิจกรรมจิตสมัครใจที่เปิดโอกาสให้ชาวไทยทุกคนได้มีส่วนร่วมสำหรับการดูแลป่าผืนใหญ่ของประเทศ มูลนิธิไทยรักษ์ป่ามั่นใจว่าการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนจะเกิดขึ้นได้ก็เมื่อคนภายในประเทศลุกขึ้นมาร่วมกันลงมือทำ ไม่ใช่เพียงแต่การรับรู้ แม้กระนั้นต้องลงมือรักษาจริงในชีวิตประจำวัน

ยิ่งไปกว่านี้ มูลนิธิไทยรักษ์ป่ายังให้ความสำคัญกับการทำงานร่วมกับแนวร่วมโครงข่าย ทั้งหน่วยงานรัฐบาล ภาคเอกชน และชุมชนแคว้น เพื่อมีการบูรณาการอย่างมีประสิทธิภาพสำหรับการดูแลพื้นที่ป่าให้เกิดความยั่งยืนมั่นคง โดยยิ่งไปกว่านั้นการทำงานกับชุมชนรอบพื้นที่ป่าซึ่งถือเป็นผู้ที่สนิทสนมธรรมชาติเยอะที่สุด การผลักดันและส่งเสริมอาชีพที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อย่างเช่น การปลูกพืชชดเชย การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ การผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์ เป็นแถวทางที่ช่วยลดแรงกดดันจากการใช้ทรัพยากรป่าและช่วยยกฐานะคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนได้ในเวลาเดียวกัน ซึ่งนี่คือกรรมวิธีการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่สอดคล้องกับจุดหมายของการพัฒนาที่ยืนยง (SDGs) ตามกรอบขององค์การสหประชาชาติ

อีกหนึ่งภารกิจสำคัญของมูลนิธิไทยรักษ์ป่าเป็นการค้นคว้าวิจัยและติดตามผลกระทบจากกิจกรรมต่างๆที่มีต่อระบบนิเวศ ดังเช่น ความเคลื่อนไหวของความมากมายทางชีวภาพ การเพิ่มขึ้นหรือลดน้อยลงของราษฎรสัตว์ป่า แล้วก็การเปลี่ยนแปลงของคุณภาพดินรวมทั้งน้ำ เพื่อให้สามารถประเมินความสำเร็จของโครงการฟื้นฟูป่าได้อย่างเป็นรูปธรรม และปรับปรุงแนวทางการปฏิบัติงานให้มีคุณภาพยิ่งขึ้นในอนาคต ทั้งยังมีการทำรายงานสถิติและข้อมูลที่เผยต่อสาธารณะเพื่อให้กำเนิดความโล่งใสสำหรับเพื่อการปฏิบัติการ รวมถึงเชิญให้ภาคราษฎรเข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจดู ติดตาม และเสนอความเห็นต่อกิจกรรมของมูลนิธิโดยตลอด

ด้วยความเอาจริงเอาจังสำหรับในการสร้างสังคมไทยที่อยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างกลมกลืน มูลนิธิไทยรักษ์ป่าก็เลยไม่เฉพาะแต่เน้นการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติในเชิงพื้นที่แค่นั้น แม้กระนั้นยังขยายแนวคิดสีเขียวไปสู่การดำนงชีพของคนเมือง ผ่านการจัดงานแสดงนิทรรศการ ออกบูธให้ความรู้ความเข้าใจในงานแฟร์ต่างๆหรือการจัดกิจกรรมรณรงค์ลดการใช้พลาสติก แนวทางในการรีไซเคิลขยะ รวมทั้งการใช้พลังงานหมุนวน ซึ่งล้วนเป็นส่วนหนึ่งของการช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระดับมหภาคอย่างเป็นจริงเป็นจัง

การส่งเสริมมูลนิธิไทยรักษ์ป่าก็เลยไม่ใช่แค่การบริจาคเงินหรือสิ่งของ แต่ว่าคือการสนับสนุนอนาคตของเมืองไทย การมีส่วนร่วมในกิจกรรมของมูลนิธิ หรือการนำแนวความคิดรักษาไปใช้ในชีวิตประจำวัน ล้วนเป็นพลังสำคัญที่ช่วยให้ป่าไทยยังคงความอุดมสมบูรณ์รวมทั้งเป็นมรดกทางธรรมชาติที่ตกทอดไปยังคนรุ่นหลังได้อย่างองอาจ การร่วมแรงกันของทุกคนในสังคมจะเป็นเฟืองเล็กๆที่ช่วยขับเคลื่อนให้ภารกิจของมูลนิธิไทยรักษ์ป่าประสบความสำเร็จ และช่วยทำให้ประเทศไทยยังคงเป็นแผ่นดินที่เขียวชอุ่ม เต็มไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่สมบูรณ์ในอนาคตอันจีรังยั่งยืน.



 ขอบคุณสำหรับที่มา บทความ มูลนิธิไทยรักษ์ป่า http://thairakpa.org/