• Welcome to ลงประกาศฟรี โปรโมทเว็บ SEO SMF PBN.
 


มูลนิธิไทยรักษ์ป่า มูลนิธิเพื่อการรักษาป่าไม้อย่างยั่งยืน ร่วมสร้างสามัญสำนึกอนุรักษ์ &&

Started by Chigaru, Jul 08, 2025, 02:39 AM

Previous topic - Next topic

Chigaru

 มูลนิธิไทยรักษ์ป่า มูลนิธิเพื่อการอนุรักษ์ป่าไม้อย่างยั่งยืน



เกี่ยวกับมูลนิธิไทยรักษ์ป่า ร่วมสร้างความสำนึกสงวน ฟื้นฟูระบบนิเวศอย่างยั่งยืน
มูลนิธิไทยรักษ์ป่า จัดตั้งขึ้นจากความตั้งใจของเอ็กโก กรุ๊ป ที่จะเกื้อหนุนการรักษาสิ่งแวดล้อมและก็ผืนป่าต้นน้ำที่สำคัญของประเทศให้เกิดความทนทาน เพื่อร่วมเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งสำหรับในการสืบสานพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูเขามิพลอดุลยอำนาจวาสนามหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 รวมทั้งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชแม่พันปีหลวง ที่ทรงมีพระราชหฤทัยเอาจริงเอาจังอย่างมากต่อการอนุรักษ์และรักษาป่า

มูลนิธิไทยรักษาป่ามุ่งหมายเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งที่จะสนับสนุนให้กำเนิดความร่วมแรงร่วมมือสำหรับเพื่อการสร้างโครงข่ายการปลูกจิตสำนึกที่ความรักษ์ป่า โดยร่วมมือรวมทั้งส่งเสริมโครงข่ายต่างๆตลอดจนช่วยเหลือการมีส่วนร่วม

โครงการของมูลนิธิไทยรักษาป่า

- ด้านการสร้างความแข็งแรงเครือข่ายชุมชน
การทำงานระดับโครงข่ายที่ลุ่ม สร้างความเป็นเจ้าของร่วมในทรัพยากรธรรมชาติ ดิน น้ำ ป่าในที่ลุ่มด้วยกัน กำเนิดความแข็งแกร่งในการบริหารจัดแจง อันเป็นการดูแลและรักษาทรัพยากรป่าไม้อย่างยั่งยืน

- ด้านการปลูกความสำนึกเยาวชนและพสกนิกร
การนำความรู้และก็ความสวยงามของป่ามาเป็นแหล่งศึกษา โดยการพัฒนาทางเพื่อให้ผู้คนเดินทางเข้าพบธรรมชาติ ทำให้เกิดจุดเริ่มแรกของความรักและหวงแหนทรัพยากรธรรมชาติ

- ด้านการอนุรักษ์และก็ฟื้นฟู
"คนอยู่ได้ ป่าอยู่ได้" คือวิธีการสำคัญของโครงงานฯ โดยมุ่งสร้างความเข้มแข็งและก็ส่งเสริมคุณภาพชีวิต มูลนิธิไทยรักษ์ป่า พร้อมทั้งสนับสนุนให้ชุมชนรักษาและอยู่ร่วมกับป่าอย่างยั่งยืน

จุดสำคัญของป่าต้นน้ำในระบบน้ำฝนรวมทั้งการอนุรักษ์น้ำ

ป่าต้นน้ำ เป็นป่าในพื้นที่สูงจากระดับน้ำทะเลโดยประมาณ 700 เมตรขึ้นไป เป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำลำธารที่หล่อเลี้ยงพื้นที่ราบลุ่มตอนล่าง และก็ฯลฯทางของน้ำที่สะอาดที่จำเป็นต้องต่อทุกชีวิต ไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์ หรือพืช

ป่าต้นน้ำทำหน้าที่เหมือน "โรงงานผลิตน้ำจืดธรรมชาติ" ที่ทำงานอย่างไม่มีวันหยุด ด้วยวิธีการซับ เก็บกัก รวมทั้งปล่อยน้ำอย่างสม่ำเสมอ ช่วยรักษาความชื้นของระบบนิเวศ แล้วก็ควบคุมสภาพภูมิอากาศให้อ่อนโยน



จุดสำคัญของป่าต้นน้ำต่อระบบนิเวศรวมทั้งการกักเก็บน้ำธรรมชาติ

ป่าต้นน้ำ คือ พื้นที่ป่าดงที่อยู่บริเวณต้นน้ำ มักอยู่ในเขตพื้นที่สูงหรือเทือกเขาที่เป็นแหล่งกำเนิดของแม่น้ำสายหลัก หน้าที่สำคัญของป่าต้นน้ำมีหลายประการ ดังต่อไปนี้

1. ขั้นตอนซับรวมทั้งกักเก็บน้ำฝนของป่าต้นน้ำ
เมื่อฝนตกลงมา พืชแล้วก็ต้นไม้ในป่าจะช่วยชะลอการไหลของน้ำฝน เรือนยอดของต้นไม้สามารถดักน้ำฝนได้ถึง 20-30% ที่เหลือจะไหลลงสู่พื้นดิน โดยระบบรากของพืชรวมทั้งชั้นสารอินทรีย์บนพื้นป่าจะปฏิบัติภารกิจราวกับฟองน้ำธรรมชาติ ซับน้ำฝนและก็เบาๆปลดปล่อยออกมาอย่างสม่ำเสมอจากภาพอธิบายจะเห็นว่า ป่าต้นน้ำประกอบด้วยพืชหลากหลายชนิด โดยมีราก ใบไม้ และก็ซากพืชทับถมกันเป็นชั้นดกบนพื้นป่า ช่วยให้น้ำฝนซึมลงดินช้าๆแทนที่จะไหลท่วมไปอย่างเร็วกระทั่งกำเนิดอุทกภัยกระทันหัน ป่าต้นน้ำที่สมบูรณ์สามารถกักเก็บน้ำได้มากถึง 2-3 เท่าของน้ำฝนที่ตกลงมาในพื้นที่

2. บทบาทของพืชพรรณสำหรับการอนุรักษ์น้ำรวมทั้งควบคุมการไหลของน้ำ
พรรณไม้ในป่าต้นน้ำมีความมากมายและก็แต่ละจำพวกมีบทบาทแตกต่างกันสำหรับในการอนุรักษ์น้ำ
ไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ (500 ประเภท): รากแก้วหยั่งลึกช่วยเจาะชั้นดินรวมทั้งหิน ทำให้น้ำซึมลงสู่ชั้นใต้ดินเจริญ
พืชพื้นล่าง (18,000 จำพวก): ช่วยปกคลุมดิน ปกป้องการชะล้างพังทลาย
กล้วยไม้และพืชอิงอาศัย (1,000 ประเภท): ช่วยดักจับความชื้นในอากาศ
พืชตระกูลมอสแล้วก็ไลเคน (2,000 ชนิด): เปรียบเหมือนฟองน้ำขนาดเล็ก สามารถซับน้ำได้มากกว่าน้ำหนักตัวหลายเท่า

3. ระบบน้ำบาดาลและการเติมน้ำลงสู่ชั้นหินซับน้ำ
น้ำฝนที่ซึมผ่านชั้นดินในป่าต้นน้ำจะถูกกรองให้สะอาดรวมทั้งเบาๆไหลซึมออกลงสู่ชั้นหินซับน้ำใต้ดิน (Aquifer) ซึ่งเป็นแหล่งน้ำสำรองตามธรรมชาติ จากภาพจะมีความเห็นว่ามีชั้นหินซับน้ำใต้ดินที่เก็บกักน้ำไว้ถึง 60,000 ประเภท รวมทั้งยังมีสัตว์ใต้ดินอีกกว่า 350 ชนิดที่อาศัยอยู่ในระบบนิเวศใต้ดินนี้ น้ำที่ถูกเก็บเอาไว้ในชั้นหินซับน้ำจะค่อยๆไหลซึมมาเป็นน้ำพุ ตาน้ำ หรือน้ำซำ เปลี่ยนเป็นแหล่งกำเนิดของสายธารรวมทั้งแม่น้ำ ทำให้มีน้ำไหลตลอดทั้งปีถึงแม้ในฤดูแล้ง

4. ผลกระทบจากการสูญเสียพื้นที่ป่าต้นน้ำต่อระบบน้ำธรรมชาติ
การตัดต้นไม้ทำลายธรรมชาติ การบุกรุกพื้นที่เพื่อทำไร่ และก็การพัฒนาที่ไม่นึกถึงระบบนิเวศ ทำให้เกิดผลเสียและไม่ดีต่อป่าต้นน้ำแล้วก็ระบบน้ำธรรมชาติอย่างหนัก

5. การเกิดอุทกภัย-น้ำแล้งจากการสูญเสียป่าต้นน้ำ
เมื่อป่าต้นน้ำถูกทำลาย ความรู้ความเข้าใจสำหรับในการเก็บกักน้ำจะลดลงอย่างมาก น้ำฝนจะไหลท่วม  มูลนิธิไทยรักษ์ป่า อย่างเร็วลงสู่พื้นที่ต่ำ นำมาซึ่งการก่อให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันในฤดูฝน เวลาที่ในฤดูแล้ง จะเกิดภาวะขาดน้ำอย่างหนัก เนื่องมาจากไม่มีการกักเก็บน้ำไว้ในระบบ งา นวิจัยจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์พบว่า พื้นที่ที่มีป่าต้นน้ำถูกทำลายไปๆมาๆกกว่า 50% จะเกิดน้ำหลากร้ายแรงในฤดูฝนและก็ขาดน้ำในฤดูแล้งเพิ่มขึ้นถึง 3-5 เท่า เมื่อเทียบกับพื้นที่ที่ยังมีป่าต้นน้ำสมบูรณ์

6. ความเคลื่อนไหวคุณภาพน้ำและก็ผลต่อระบบนิเวศทางทะเล
เว้นเสียแต่ปัญหาปริมาณน้ำแล้ว การสูญเสียป่าต้นน้ำยังส่งผลต่อประสิทธิภาพน้ำด้วย น้ำที่ไหลผ่านพื้นที่ทำการเกษตรมักแปดเปื้อนสารเคมีและก็ขี้ตะกอนดิน เมื่อไม่มีป่าคอยกรองและดักจับสิ่งเหล่านี้ น้ำในแม่น้ำลำธารก็เลยมีคุณภาพลดน้อยลง ส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตในน้ำและการใช้คุณประโยชน์ต่างๆที่ได้รับจากมนุษย์ งานเล่าเรียนของกรมอุทยานแห่งชาติพบว่า แม่น้ำที่มีต้นน้ำอยู่ภายในเขตพื้นที่ป่าบริบูรณ์จะมีค่าออกสิเจนละลายน้ำ (DO) สูงขึ้นมากยิ่งกว่า และมีปริมาณตะกอนแขวนลอยต่ำยิ่งกว่าแม่น้ำที่มีต้นน้ำจากพื้นที่ทำการเกษตรหรือพื้นที่ที่ป่าถูกทำลาย

ป่าต้นน้ำเป็นระบบนิเวศที่มีความจำเป็นอย่างมากต่อการอนุรักษ์และรักษาน้ำฝนตามธรรมชาติ มูลนิธิไทยรักษ์ป่า ปฏิบัติหน้าที่เปรียบเสมือนโรงงานผลิตน้ำจืดที่ดูดซึม เก็บกัก แล้วก็เบาๆปล่อยน้ำออกมาอย่างสม่ำเสมอ การสูญเสียพื้นที่ป่าต้นน้ำนำไปสู่ปัญหาอุทกภัย น้ำแล้ง และการขาดแคลุกลี้ลุกลนน้ำ

การอนุรักษ์แล้วก็ฟื้นฟูป่าต้นน้ำก็เลยเป็นสิ่งจำเป็นเร่งด่วน โดยต้องอาศัยความร่วมแรงร่วมมือจากทุกภาคส่วน อีกทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และก็ชุมชนท้องถิ่น รวมถึงการนำเทคโนโลยีและสิ่งใหม่มาดัดแปลงอย่างเหมาะสม

ในบริบทของการเปลี่ยนแปลงลักษณะของอากาศ ป่าต้นน้ำยิ่งทวีจุดสำคัญเพิ่มมากขึ้น ในฐานะกลไกธรรมชาติที่ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับระบบนิเวศและทุเลาผลพวงจากเภทภัยทางน้ำ



การลงทุนสำหรับในการสงวนป่าต้นน้ำจึงไม่ใช่เพียงแค่การลงทุนเพื่อสิ่งแวดล้อม แม้กระนั้นเป็นการลงทุนเพื่อความมั่นคงทางเรือ มูลนิธิไทยรักษ์ป่า และก็อาหารของประเทศในระยะยาว

ที่มา https://thairakpa.org/